ข้าวโพดหวาน ซันสวีท 05
เทคนิคการปลูก ข้าวโพดหวาน ซันสวีท 05
ข้าวโพดหวานลูกผสม ซันสวีท 05 เป็นข้าวโพดหวานลูกผสม ที่ได้พัฒนาพันธุ์เหมาะสำหรับบริโภคฝักสดและส่งโรงงาน ฝักใหญ่ สวย สีเหลืองครีม ผลทรงกระบอก แกนฝักเล็ก เมล็ดเรียงแถวเป็นระเบียบ และติดเมล็ดถึงปลายฝัก รสชาติหอม หวาน อร่อย ให้ผลผลิตสูง สำต้นตั้งตรง แข็งแรง ไม่หักง่าย ต้นสูงเสมอ เก็บเกี่ยวง่าย ทนแล้งปลูกได้ตลอดปี ทนทุกสภาพแวดล้อม ต้านทานต่อโรคและแมลง อายุเก็บเกี่ยว 70-75 วัน หลังหยอดเมล็ด ทนทานต่อการขนส่ง เป็นที่ต้องการของตลาด
ลักษณะประจำพันธุ์ Sun Sweet 05 | |
ชนิดยีนควบคุมความหวาน | sh2 |
ผลผลิตทั้งเปลือก (ก.ก./ไร่) | 3,200-3,500 |
ผลผลิตปอกเปลือก (ก.ก./ไร่) | 2,200-2,500 |
เปอร์เซ็นต์เนื้อ | มากกว่า 35% |
วันออกไหม | 48-50 |
ความสูงต้น (ซ.ม.) | 185-190 |
ความสูงฝัก (ซ.ม.) | 90-100 |
อายุเก็บเกี่ยวหลังออกไหม (วัน) | |
โรงงานอุตสาหกรรม | 20 |
เก็บเกี่ยวสด | 22 |
อายุเก็บเกี่ยวหลังปลูก (วัน) | 70-75 |
(ฤดูหนาวอาจเก็บเกี่ยวช้าลง 7-10 วัน) | |
สีไหม | ขาว |
คุณภาพการชิม | ดีมาก |
ความหวาน ดีมาก | ดีมาก |
ความหนาเปลือกหุ้มเมล็ด | บาง |
สีเมล็ด | เหลือง |
จำนวนแถวเมล็ดต่อฝัก | 16-18 |
ความยาวฝัก (ซ.ม.) | 20-22 |
ความกว้างฝัก (ซ.ม.) | 5.5-6 |
ความแข็งแรงของรากและลำต้น | ดีมาก |
ขั้นตอน | วิธีการปลูกและดูแลรักษา | |||
การเตรียมดินก่อนปลูก | ใส่ปุ๋ยคอก อัตรา 1.5-2.0 ตัน/ไร่ แล้วไถดะกลบให้ดินลึกประมาณ 10-12 นิ้ว และตากดินทิ้งไว้ 7-10 วัน | |||
ใส่ปุ๋ยรองพื้น สูตร 15-15-15 หรือ 25-7-7 อัตรา 30-50 กก./ไร่ แล้วไถแปรขวางรอยเดิม | ||||
การปลูก | ||||
การปลูกแบบแถวเดี่ยว | ระยะห่างระหว่างแถว 75 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้น 25-30ซ.ม. ปลูกหลุมละ 1-2 ต้น | |||
จำนวนต้นต่อไร่ประมาณ 7,000-8,500 ต้น จะใช้เมล็ดประมาณ 1.0-1.5 กิโลกรัมต่อไร่ | ||||
การปลูกแบบแถวคู่ | มีการยกร่องสูง ระยะห่างระหว่างร่อง 120 ซ.ม. ปลูกเป็นสองแถว ข้างร่องระยะห่าง 30 ซ.ม. | |||
ระยะระหว่างต้น 25-30 ซ.ม.ปลูก 1-2 ต้นต่อหลุม จะมีจำนวนต้นประมาณ 7,000-8,500 ต้นต่อไร่ | ||||
และใช้เมล็ดประมาณ 1.0-1.5 กิโลกรัมต่อไร่การให้น้ำจะปล่อยน้ำตามร่องซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกดี | ||||
การใส่ปุ๋ย | ||||
การใส่ปุ๋ยแต่งหน้าครั้งที่ 1 | สูตรปุ๋ยที่แนะนำคือ 46-0-0 (ยูเรีย) อัตรา 25-30 กิโลกรัม ต่อไร่ ใส่เมื่อข้าวโพดมีอายุ 20-25 วัน | |||
หลังปลูก โรยข้างต้นข้าวโพดในขณะดินมีความชื้นหรือให้น้ำตาม หรือพูนโคนกลบปุ๋ยก็จะเป็นการ | ||||
กำจัดวัชพืชไปในตัว | ||||
การใส่ปุ๋ยแต่งหน้าครั้งที่ 2 | เมื่อข้าวโพดมีอายุ 40-45 วันหลังปลูก ถ้าแสดงอาการเหลือง หรือไม่สมบูรณ์ ให้ใส่ปุ๋ยยูเรีย | |||
(46-0-0) อัตรา 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างต้นข้าวโพดในขณะดินมีความชื้นหรือให้น้ำตาม | ||||
การให้น้ำ | ||||
ระยะที่ข้าวโพดหวานขาดน้ำไม่ได้คือระยะ 7 วันแรกหลังปลูกเป็นระยะที่ข้าวโพดกำลังงอก ควรให้ | ||||
น้ำอย่างเพียงพอ แต่ไม่มากจนเกินไป (ลองกำดินแล้วคายออกดินจะไม่จับเป็นก้อน) ถ้าข้าวโพดหวาน | ||||
ขาดน้ำช่วงนี้จะทำให้การงอกไม่ดีจำนวนต้นต่อพื้นที่ก็จะน้อยลงจะทำให้ผลผลิตลดลงไปด้วย | ||||
ระยะที่ขาดน้ำไม่ได้อีกช่วงหนึ่งคือระยะออกดอก การขาดน้ำในช่วงนี้จะมีผลทำให้การผสมเกสร | ||||
ไม่สมบูรณ์ การติดเมล็ดจะไม่ดี ติดเมล็ดไม่เต็มถึงปลายฝัก หรือ ติดเมล็ดเป็นบางส่วน ซึ่งฝักที่ได้ | ||||
จะขายได้ราคาต่ำ โดยปกติถ้าเป็นพื้นที่ที่สามารถให้น้ำได้ควรให้น้ำทุก 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพ | ||||
ต้นข้าวโพด และสภาพอากาศ แต่ช่วงที่ควรให้น้ำถี่ขึ้นคือช่วงที่ข้าวโพดกำลังงอก และช่วงออกดอก | ||||
การเก็บเกี่ยว โดยปกติข้าวโพดหวานจะเก็บเกี่ยวเมื่อมีอายุประมาณ 70-75 วัน หลังปลูก แต่ระยะที่ | ||||
เหมาะสมสำหรับการเก็บเกี่ยวที่สุด คือระยะ 20-22 วันหลังข้าวโพดออกไหม 50% (ข้าวโพด 100 ต้น | ||||
มีไหม 50 ต้น) ข้าวโพดหวานพันธุ์ Big 5 จะเก็บเกี่ยวที่อายุประมาณ 68-72 วัน หลังปลูก | ||||
แต่ถ้าปลูกในช่วงอากาศหนาวเย็นอายุการเก็บเกี่ยวอาจจะยืดออกไปอีก หลังเก็บเกี่ยวแล้ว ควรรีบส่ง | ||||
โรงงานหรือจำหน่ายโดยเร็ว เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำหากขาดน้ำจะมีผลต่อเมล็ดและน้ำหนักฝัก | ||||
โรคและแมลง | ||||
หนอนเจาะฝัก | การระบาดของหนอนเจาะฝักข้าวโพด บางฤดูจะระบาด ทำให้ฝักข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวได้มีตำหนิขายไม่ได้ | |||
ราคา ผลผลิตต่อไร่ลดลงสามารถป้องกันการระบาดได้โดยการหมั่นตรวจแปลงอยู่เสมอโดยเฉพาะใน | ||||
ระยะเริ่มผสมเกสร ถ้าพบว่าเริ่มมีหนอนเจาะฝักให้ใช้ยา ฟลูเฟนนอกซูรอน หรือ ฟิโบรนิล (ชื่อสามัญ) | ||||
ในอัตรา 20 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นที่ฝัก 1-2 ครั้ง ห่างกัน 7 วัน | ||||
เพลี้ยไฟ | ถ้าข้าวโพดหวานออกดอกในช่วงฝนทิ้งช่วง หรือ ในหน้าแล้ง มักจะพบว่ามีเพลี้ยไฟเกาะกินน้ำเลี้ยงที่ไหม | |||
ของฝักข้าวโพดทำให้ไหมฝ่อการผสมเกสรไม่สมบูรณ์ การติดเมล็ดจะไม่ดีตามไปด้วย ป้องกันได้โดย | ||||
หมั่นตรวจแปลงในระยะออกดอก ถ้าพบว่ามีเพลี้ยไฟเกาะที่ไหมให้ใช้ยา เอ็นโดซันแฟน (ชื่อสามัญ) | ||||
หรือ วีฟอส(ชื่อการค้า) อัตรา 40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ฝัก | ||||
โรคราน้ำค้าง | เกิดจากเชื้อรา Peronosclerospora Sorghi สภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการระบาดในฤดูฝน | |||
ความชื้นในบรรยากาศสูง และอากาศเย็นในตอนเช้า สารเคมีที่ใช้ป้องกัน คลุกด้วยเมตาเลกซิล | ||||
อัตรา 3-5 กรัม ต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม | ||||
โรคราสนิม | ถ้ามีโรคราสนิมระบาดรุนแรงจะทำให้ฝักข้าวโพดไม่สมบูรณ์ การติดเมล็ดจะไม่เต็มถึงปลายฝัก | |||
ขายไม่ได้ราคา ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคราสนิมอยู่เป็นประจำควรฉีดพ่นด้วยยา ไดฟีโนโคนาโซล | ||||
(ชื่อสามัญ)หรือ สกอร์ (ชื่อการค้า) อัตรา 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรเมื่อเริ่มเป็นโรค | ||||
ข้อควรระวัง | เนื่องจากข้าวโพดหวาน Sun Sweet 05 มียีนความหวานแบบ แชงแกนยีน (sh2) ซึ่งมีคุณสมบัติ | |||
คงความหวานไว้ได้ 3-4 วันหลังเก็บเกี่ยว และเมล็ดจะคงเปอร์เซนต์ความที่สูงไว้ได้แค่ 3-6 เดือน | ||||
ฉะนั้นเมื่อซื้อเมล็ดพันธุ์ไปแล้ว ควรทำการเพาะปลูกทันที | ||||
ควรปลูกห่างจากแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือข้าวโพดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ข้าวโพดหวานอย่างน้อย | ||||
300-500 เมตร หรือปลูกในช่วงเวลาผสมเกสรไม่ตรงกัน แหล่งที่มา: http://www.grand-biz.com/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99.html |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก